วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

สรุป : ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ facebook


มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก มีเชื้อสาย ยิว - อเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2527 เข้าศึกษาระดับมัธยมที่ Ardsley High School และจบมัธยมปลายที่ Phillips Exeter Academy ในปี 2545
สมัยเรียนไฮสคูล ซักเคอร์เบิร์กหัดเป็นโปรแกรมเมอร์ ตั้งแต่อยู่ ชั้น ป.6 เขากับเพื่อนสร้าง โปรแกรมสำหรับเรียนรู้นิสัยการฟังเพลงของผู้ใช้ Winamp และ MP3 และเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทางอินเตอร์เน็ต
ซัคเกอร์เบิร์กเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ซัคเกอร์เบิร์กเริ่มต้นโครงการวิจัยชิ้นแรกกับเพื่อนร่วมห้อง Arie Hasit ชื่อของโปรเจคนี้คือ Coursematch เป็นบริการที่เปิดให้นักศึกษาสามารถดูรายชื่อเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้ โปรเจคต่อมาคือ Facemash.com เว็บไซต์โหวตรูปนักศึกษาฮาร์เวิร์ดว่าใครได้รับความนิยม แต่เมื่อโปรเจคนี้ให้บริการจริงเพียง 4 ชั่วโมง มหาวิทยาลัยก็ระงับการใช้อินเทอร์เน็ตของซัคเกอร์เบิร์ก ด้วยข้อหาว่าโปรเจคนี้ละเมิดนโยบายการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ และเป็นภัยต่อระบบความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย

ซัคเกอร์เบิร์กสร้างบริการ Facebook ด้วยฤกษ์วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 เป็นบริการที่ให้นักศึกษาสามารถโพสต์ข้อมูลของตัวเองได้เท่าที่ต้องการ
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 Mark Zuckerburg ได้เปิดตัวเว็บไซต์ facebook ซึ่งเป็นเว็บประเภท social network  ที่เปิดให้เข้าใช้เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเท่านั้น เมื่อมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเขตบอสตั้นก็เริ่มมีความต้องการ และอยากขอเข้าใช้งาน facebook บ้าง มาร์คจึงได้ชักชวนเพื่อของเค้าที่ชื่อ Dustin Moskowitz และ Christ Hughes เพื่อช่วยกันสร้าง facebook
ไอเดียเริ่มแรกในการตั้งชื่อ facebook นั้นมาจากโรงเรียนเก่าในระดับมัธยมปลายของมาร์ค ที่ชื่อฟิลิปส์ เอ็กเซเตอร์ อะคาเดมี่ โดยที่โรงเรียนนี้จะมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่มที่ชื่อว่า The Exeter Face Book ซึ่งจะส่งต่อๆกันไปให้นักเรียนคนอื่นๆได้รู้จักเพื่อนๆในชั้นเรียน ซึ่ง facebook นี้จริงๆแล้วก็เป็นหนังสือเล่มหนึ่งเท่านั้น จนเมื่อวันหนึ่งมาร์คได้เปลี่ยนแปลงและนำมันเข้าสู่โลกของอินเทอร์เน็ต
บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ เป็นนักลงทุนรายแรก ที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงิน 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แลกกับหุ้น facebook เพียงแค่ 1.6 % เมื่อปลายปี 2550 ตั้งแต่ facebook ให้บริการมาได้แค่ 3 ปี และมีผู้ใช้บริการเพียง 50 ล้านคน
นอกจากนี้ ดีลประวัติศาสตร์อีกครั้งของ Facebook ก็คือตกลงขายหุ้นนิดหน่อยให้กับกลุ่มนักลงทุนอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ สัญชาติรัสเซีย "ดิจิตอล สกาย เทคโนโลยีส์" หรือ DST เพื่อแลกกับการเจาะตลาด Facebook ในแถบรัสเซีย และยุโรปตะวันออก ซึ่ง DST เป็นเจ้าของธุรกิจ และนายทุนใหญ่คุมตลาดอินเตอร์เน็ตทั้งภูมิภาคดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น